เรื่องของ Metrosexual Guys และ Herbivorous Boys

เคยได้ยินคำว่า Metrosexual กันบ้างไหมคะ?

หากพูดกันตามรากศัพท์แล้ว “Metro sexual” มาจากศัพท์ 2 คำ  คำแรกคือคำว่า “Metro” ที่มีความหมายตรงกับคำว่าเมือง ในขณะที่ “Sexual” เป็นศัพท์ที่นำมาจาก “Homosexual” ซึ่งในที่นี้หมายถึงผู้ชายปกติ แต่ก็มีความกังวลเกี่ยวกับรูปร่าง การดูแลรักษาตัวเอง รวมถึงเรื่องแฟชั่นซึ่งไม่ต่างจากเกย์ เมื่อนำมาใช้ในคำว่า “Metrosexual” จึงหมายถึง ผู้ชายที่ใช้ชีวิตในรูปแบบสังคมเมือง

อย่างไรก็ตาม ว่ากันว่า ผู้ชาย Metro sexual ไม่ได้เป็นผู้ชายที่หลงใหลชอบพอเพศเดียวกัน แต่หมายถึงผู้ชายที่สนุกกับการดูแลตัวเอง เช่น ชอบเข้า fitness นวดตัว แต่งเท้า ดูแลเรื่องใบหน้า อาบแดด ดูแลเรื่องทรงผม (Metrosexual is a word describing men who have a strong concern for their aesthetic appearance, and spend a substantial amount of time and money on their images and lifestyles.) ซึ่งภาษาอังกฤษในวงเล็บน่าจะเป็นประโยคที่ใช้อธิบายความเป็น Metrosexual ได้ดีที่สุด (ในต่างประเทศเขายกให้ David Beckham เป็นหนึ่งในตัวอย่างของหนุ่มแบบ Metrosexual)

ในช่วงที่ผ่านมากระแสเรื่อง Metrosexual นั้นค่อนข้างแรง แต่ก็ทำให้เกิดความเ้ข้าใจผู้ชายหลายต่อหลายคนที่ทำตัวสำอางเกินเหตุ แต่ไม่ใช่เกย์ได้เป็นอย่างดี (จะว่าไป ก็ทำให้สาวโสดทั้งหลายมีทางเลือกน้อยลง เพราะชายเหล่านี้มักจะสนใจตัวเองมากกว่าสนใจหญิง) ยังไม่ทันที่กระแสนี้จะซาลง ก็ทราบข่าวเรื่องหนุ่มพันธู์ใหม่ ที่เรียกว่า Herbivorous Boys หรือเรียกเป็นภาษาไทยว่า “ไอ้หนุ่มกินผัก” (คอลัมน์ “จากญี่ปุ่น” ของ นกุล ว่องฐิติวงศ์)

ในคอลัมน์ของ นกุล บอกไว้ว่า “ไอ้หนุ่มกินผัก” เป็นชายสายเลือดใหม่ในญี่ปุ่น ผู้ไม่พิศมัยสุราเมรัยและอิสตรี แต่ใช้เงินหมดไปกับเครื่องสำอาง เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและขนมหวานมากกว่าเพื่อการเที่ยวเตร่หรือเพื่อผู้หญิงแบบหนุ่มๆ ในยุคเก่า ส่วนที่ใช้คำว่า Boys แทนคำว่า Men เพราะเห็นว่าหนุ่มญี่ปุ่นในยุคนี้ยังมีความเป็นเด็กอยู่มาก และห่างไกลจากความเป็นผู้ใหญ่หรือความเป็นหนุ่มเต็มตัว อันอาจเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ตึงเครียด ทำให้เด็กหนุ่มอายุ 20-30 ปี ที่เพิ่งจบการศึกษามาใหม่หางานทำไม่ได้ง่ายๆ โดยเฉพาะงานที่มั่นคงมีรายได้สูง ทำให้เด็กหนุ่มเหล่านี้ต้องใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง ประหยัด ไม่สนใจและไม่ทุ่มเทให้กับความรักและเพศตรงข้ามจนถูกมองว่าเป็นพวกงุ่มง่าม ชาเย็น และขี้เหนียว โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับเซ็กซ์ (ซึ่งตรงข้ามกับผู้ชายในยุคก่อนที่เป็นพวกชอบกินเนื้อสด (carnivorous) ในนัยของคนญี่ปุ่น “เนื้อสด” ยังหมายถึงผู้หญิงและเซ็กซ์อีกด้วย)

ไอ้หนุ่มกินผัก จะเป็นกลุ่มเด็กหนุ่มที่เปราะบาง ระวังตัวกลัวเจ็บ ไม่ชอบการกระทำหรือกิจกรรมที่เสี่ยงหรืออาจเป็นอันตรายที่ทำให้ตนเองหรือคนอื่นต้องเจ็บปวด จะดูแลรักษาสุขภาพอย่างดีด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เช่นผักสดและผลไม้ ไปฟิตเนสเป็นประจำ ชอบอ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมส่วนตัวอยู่กับบ้าน (คล้ายๆ กับ Metrosexual แต่ “หน่อมแน้ม” กว่า?) ไม่ชอบออกไปสำมะเลเทเมา แต่มักไปรวมกันอยู่ในร้านเค้กหรือขนมหวาน เป็นกลุ่มผู้ชายที่เชื่อว่าหญิงกับชายจะมีความสัมพันธ์กันฉันท์เพื่อนได้โดยไม่ต้องมีเซ็กซ์เข้ามาเกี่ยวข้อง

ว่ากันว่า ปรากฎการณ์แบบนี้ในสังคมญี่ปุ่นเกิดจาก ความเปลี่ยนแปลงของสังคมที่การแบ่งแยกบทบาทและหน้าที่ระหว่างชาย-หญิงมีน้อยลงหรือแทบไม่มีเลย ผู้ชายจึงไม่จำเป็นที่จะต้องรักษาอัตลักษณ์ของความเป็นผู้ชายตามคตินิยมแบบเดิมๆ อีกต่อไป (ซึ่งลักษณะการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็พบได้มากขึ้นในสังคมไทยเรา)

ฟังเรื่องแบบนี้แล้ว ก็ไม่รู้ว่าต่อไปสาวๆ จะเจอกับหนุ่มประเภทไหนที่สนใจพวกเธอน้อยลงอีกบ้าง แต่สำหรับสาวโสดทั้งหลาย ปรากฎการณ์ในสังคมทั้งแบบ Metrosexual Guys และ Herbivorous Boys ก็อาจเป็นข้ออ้างชั้นดีเวลาที่ใครถามว่า “ทำไมถึงยังไม่แต่งงาน?” ก็โถ…หนุ่มๆ เล่นหนีไปเข้าสปาและกินผักเสียแล้ว…จะเหลือพวกที่แมนทั้งแท่งอยู่สักกี่คนเชียว (ฮา)

3 ความเห็นบน “เรื่องของ Metrosexual Guys และ Herbivorous Boys”

  1. ไม่น่าเชื่อว่า คำว่า “ความงาม” จะมีอิทธิพลต่อจิตใจในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและการนิยมสร้างอัตลักษณ์ (ภาพลักษณ์+ภายนอก) ของคนในสังคมสมัยใหม่มากขนาดนี้ โดยเฉพาะ “เพศชาย” ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะส่งผลดีหรือไม่ อย่างไรในอนาคตต่อผู้หญิงอย่างเราๆ โลกมันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ฮ่าๆ น่าหวั่นใจจังนะคะ :p

    ถูกใจ

    1. นั่นสิคะ K wan เมื่อโลกมันเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ ผู้หญิงเราก็คงต้องปรับตัวตามไปด้วย ว่ากันว่า คนที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงเท่านั้นถึงจะอยู่ได้ อย่างคำที่ Charles Darwin กล่าวไว้ “It is not the strongest of the species that survive, nor the most intelligent, the one most responsive to change” และถ้าโลกมันเปลี่ยนไปมากกว่านี้อีกนิด ในอนาคตเราอาจเหลือกันเพียงเพศเดียว…แต่ไม่อาจบอกได้ว่าคือเพศอะไร ฮ่าๆๆ

      ถูกใจ

ใส่ความเห็น