ย้อนเวลากลับไปเมื่อหลายปีก่อน…ด้วยความที่เพื่อนสนิทในกลุ่มชอบกินนม ทุกครั้งหลังจากนัดทานข้าวเย็น ซึ่งจะนัดกันทุกๆ วันที่ 25 ของเดือน พวกเรามักจะไปจบที่ร้านนมร้านใดร้านหนึ่งเสมอ
ผ่านมาหลายปี ตอนนี้การนัดหมายในแต่ละเดือนเริ่มห่าง เพื่อนสนิทบางคนเริ่มหาย ด้วยเพราะภารกิจส่วนตัว ภารกิจครอบครัว และอีกสารพัดเหตุผลที่ทำให้เราเจอกันได้น้อยลง ทำให้การนัดทานข้าวถูกยืดระยะออกไปเป็น 2-3 เดือนครั้ง หรือมากกว่านั้น แต่ดูเหมือนว่าพวกเราก็ยังต้องการจะจบการสังสรรค์กันที่ร้านนมเสมอ…
ทำไมถึงเป็นแบบนั้น…
อาจเพราะ เพื่อนๆ ในกลุ่มไม่ชอบพาตัวเองไปนั่งฟังเพลงตามคลับต่างๆ
อาจเพราะ ไม่มีคนนิยมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
อาจเพราะ ตอนที่เราทานข้าวกัน เรายังคุยกันไม่หนำใจ
อาจเพราะ การนั่งคุยกันตอนดื่มนม แกล้มขนมปังปิ้งอุ่นๆ ให้ความสุขและอบอุ่นใจมากกว่าการดื่มอย่างอื่น
อาจเพราะ…
ว่ากันว่ามิตรภาพที่ดีเกิดขึ้นได้จากการได้พูดคุยกันแบบจริงใจสร้างสรร หรือการได้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันยามทุกข์ยาก การได้นั่งคุยกันในร้านนมที่มีบรรยากาศสบายๆ ก็น่าจะเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยก่อให้เกิดมิตรภาพที่งดงามได้ ฉะนั้น คำว่า ร้านนม จึงมีความหมายในเชิงบวกกับใจผู้เขียนเสมอ
และเมื่อวันหนึ่ง ได้มีโอกาสเป็นเจ้าของร้านนมแบบไม่ทันตั้งตัว…จึงเกิดคำถามขึ้นในใจ นี่มันเรื่องจริงหรือเรื่องฝันกันแน่ หรือคือฝัน…ที่กลายเป็นจริง!!!
แต่ไม่ว่าจะคืออะไร อยากจะบอกใครต่อใครว่า ดีใจจริงๆ ที่มีวันนี้…วันที่ความจริงกับความฝันมีโอกาสรวมกัน…เป็นหนึ่งเดียว
จะหาโอกาสไปอุดหนุน จ้า ตอนนี้ให้กำลังใจส่งไปก่อน
ขอบคุณค่ะอาจารย์ เดี๋ยวจะหาสูตรเครื่องดื่มอร่อยๆ ไว้รอนะคะ ^^
ยินดีด้วยอย่างยิ่งครับ มีโอกาสแล้วจะไปดื่มนมที่ได้มากกว่าสุขภาพแน่นอนครับ เจ้าของร้านขายด้วยใจจริง ๆ เลย แน่จริงขว้างผมให้โดนสิ 555
ขอบใจจ้าาาา ^^
เหนื่อยไหมคะ อย่าลืมพักผ่อนบ้างนะคะ เป็นกำลังใจ ขอให้ขายดีนะคะ มีโอกาสไปเชียงใหม่เมื่อไรจะไปอุดหนุนค่ะ
เหนื่อยเหมือนกันค่ะพี่เดือน เพราะไม่ได้วางแผนเรื่องนี้ไว้ตั้งแต่แรก ถือว่าเป็นสิ่งที่เข้ามาในชีวิตแบบฉุกเฉิน แต่ก็คิดว่าพอจะรับมือไหว ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะ ^^